dziloverclub.orgfree.com   
Get free counter at Cgi2yoU.com  
 [27/01/52]   

HOME •นาาสาระ •รายการสินค้า •วิธิการสั่งซื้อ-ชำะเงิน •Web Board • Free Download •ติดต่อเรา

 
ปี่เซี่ย
ตำนานหินทิเบต

      มีตำนานเล่าว่าในสมัยเริ่มแรกของทิเบต ได้เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง ชาวทิเบตต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน โชคดีที่ได้พระองค์หนึ่งผ่านมานามว่า Vajravarahi ได้มาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ โดยทำให้หินวิเศษdZi หล่นมาจากฟ้า ใครก็ตามที่เชื่อมั่นก็จะปลอดภัยจากโรคร้าย ปลอดจากความหายนะและโชคร้ายทั้งปวง


หินทิเบต

ประวัติความเป็นมาของหินทิเบต
     dZi ปรากฏในสมัย 3,000-1,500 ปีก่อนคริสตกาล ในอินเดียโบราณมีชนเผ่าอารยันอาศัยอยู่  ผู้คนในสมัยนั้นนับถือและสวดอ้อนวอนพระเจ้า  ใช้เวทย์มนต์  มีการแกะสลักหินเป็นรูปสัตว์และสัญลักษณ์อื่น ๆ เพื่อทำให้วิญญาณบริสุทธิ์  หินในสมัยนั้นเรียกว่า เวด้า (Veda)  เริ่มแรกลวดลายนั้นเกิดจากสภาพแวดล้อมและความรุนแรงของปรากฏการณ์ธรรมชาติ  ต่อมาพวกเขาจึงได้คิดวิธีการรักษาโรคร้ายโดยใช้หินที่แกะลวดลายต่าง ๆ  นำมาสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า
     หินdZi  ในภาษาทิเบต  มีความหมายว่าสวยงาม  อำนาจ  ร่ำรวย  ในภาษาสันสกฤตเรียกว่า ไมซีก้า (Meiziga) ในสมัยฮ่องเต้ถังไท่จง  พระธิดาของพระองค์ได้อภิเษกสมรสกับกษัตริย์ของทิเบต  พระธิดาได้นำพระพุทธรูปจากอินเดีย  เป็นสินสมรส  และได้ประดิษฐานไว้ที่วัดโจคังในเมืองลาซา  ชาวทิเบตได้ใช้หินdZi มากกว่าร้อยเม็ดฝังไว้ในองค์พระ 
     ในบันทึกทางประวัติศาสตร์กล่าวว่าได้มีการติดต่อกันระหว่างทิเบตและยูหยวน  และมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันดังนั้นตำนานการทำหินdZi  จึงมีการถ่ายทอดกันมาหลายรุ่นจนถึงปัจจุบัน
     หินdZi พบมากในประเทศแภบเทือกเขาหิมาลัย เช่น ทิเบต ทิเบตตะวันออก ภูฏาน สิกขิม ลาดัค ชาวทิเบตเรียกอีกชื่อว่า เทียนจู ย้อนไปเมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว  ชาวทิเบตพบว่ามีสนามแม่เหล็กรอบ ๆ หินนี้จึงนำมาทำก้อนกลม ๆ และแบบต่าง ๆ แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีเทคนิคในการทำมากนัก  จึงได้หินที่มีลายตื้น ๆ ต่อมาชาวทิเบตได้วาดลวดลายหินนำโชคหลาย ๆ ลายเช่น แจกันโภคทรัพย์ ดอกบัว  ลายเขี้ยวเสือ  ตาหลาย ๆ แบบ และลายเส้น ฯลฯ แล้วนำไปเผาด้วยความร้อนสูง  เพื่อให้ลวดลายซึกเข้าไปลึก  ถ้าหินdZi ได้ผ่านการสวดหรือปลุกเสกโดยพระผู้มีวิชาหรือปรมาจารย์ทางลัทธิเต๋า  จะทำให้มีพลังวิเศษ  กล่าวกันว่าเฉพาะผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้ครอบครองหินนำโชคนี้


     ส่วนประกอบของหินdZiแท้  ทำจากหินอาเก็ต เรียกว่า คาลซีโดนี (Chalcedony) มีชื่อทางเคมีว่า ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) หินทิเบตแท้จะปล่อยสนามแม่เหล็กที่มีพลังงานสูงมากออกมาลักษณะภายนอกจะแบ่งได้ 4 ชนิด ได้แก่ หินสีแดงซึ่งอยู่ลึกที่สุดของภูเขาขณะเดียวกันก็ทีค่าพลังวัตรและมีมูลค่ามากที่สุด  นอกจากสีแดงยังมีหินสีดำ  หินสีดำขาว  และหินสีขาวหรือสีใสซึ่งอยู่ชั้นนอกสุดที่ระดับความลึกประมาณ 2-3 เมตร
 ขึ้นด้านบน
 เกรดของหินทิเบต
      ในปัจจุบันมีนักสะสม หินdZiหรือที่คนไทยเรียกว่าหินทิเบต  ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น  จึงทำให้ผู้ผลิตเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ  หินทิเบตที่พบเห็นและซื้อขายมีหลากหลายชนิดหลายเกรดแยกออกเป็น 5 เกรด คือ
     1.หินทิเบต  อายุ 4-5 พันปี  เป็นวัุตถุโบราณหายากมากไม่มีขายในท้องตลาดและหาดูได้ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น
     2.หินทิเบต อายุ 8-9ร้อยปีถึงพันปีขึ้นไปยังสามารถพบเห็นแต่มีราคาสูงมาก  คนที่มีก็จะไม่ค่อยยอมขายเพราะเป็นของที่หายาก 
     3.หินทิเบต  ใหม่อายุตั้งแต่1ปีถึงเก่าอายุ6-7ร้อยปี  ทำขึ้นโดยช่างชาวทิเบตพื้นเมืองรุ่นใหม่  ตามหมู่บ้านแถบเทือกเขาหิมาลัยที่สืบทอดวิธีการทำหินทิเบตแบบโบราณและพัฒนาเทคนิคการทำให้ทันสมัยเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ประณีตสวยงามและมีลวดที่ซึมลึกลงไปในเนื้อหิน  แต่ยังคงยึดถือกรรมวิธีแบบดังเดิมคือการนำหินทิเบตที่ทำขึ้นใหม่ไปให้ลามะผู้ที่มีวิชาทำการปลุกเสก  เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องรางและเครื่องประดับของชาวทิเบต  มีพลังเหมือนกับหินเกรด 2 ทุกประการแต่ต่างกันที่ความเก่า  ราคาหลักร้อยถึงหลักแสนตามแต่สภาพและความเก่าของชิ้นงาน
     4.หินทิเบตใหม่จากโรงงาน  ผลิตขึ้นเพื่อการค้าจากโรงงานในประเทศทิเบตและจีนทำจากหิน อาเกต (Agate) ตามแบบโบราณและกรรมวิธีสมัยใหม่ในการผลิต  ลักษณะของชิ้นงานที่ได้ลวดลายจะไม่ประณีตเท่าที่ควรแต่ขนาดของชิ้นงานจะใกล้เคียงกันและได้รูปทรงเพราะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยและผลิตคราวละมาก ๆ   มีพลังในด้านการบำบัดโรคเหมือนหินเกรด 2  และ 3  เพราะทำจากหินอาเกตเหมือนกันแต่ต่างกันที่ไม่มีพลังพิเศษที่ช่วยในด้านโชคลาภ ฯลฯ เพราะไม่ได้ผ่านการปลุกเสกจากลามะ  ราคาหลักร้อยถึงหลักพัน
     5.หินทิเบตใหม่ผลิตจากโรงงานในประเทศจีนและไต้หวันทำจากแก้ว  พลาสติก  เรซิ่น  เซรามิก  หินอ่อน ฯลฯ  ใช้วิธีการทำคล้ายเครื่องปันดินเผา  กระเบื้องเคลือบ  ทำให้ชิ้นงานออกมาไม่เหมือนกันเลยที่เดียว  ให้ความรู้สึกเหมือนงานที่ทำด้วยมือ  แต่จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน  ลวดลายที่ได้จะอยู่แค่ที่ผิวไม่ซึมลงไปในตัวชิ้นงาน  ให้สังเกตจากผิวของลายกับตัวชิ้นงานจะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด  น้ำหนักอาจใกล้เคียงกันหินเพราะมีการนำหินอาเกตมาป่นรวมกับวัสดุอื่นอาทิเช่าแก้ว  ให้สังเกตดูที่เนื้องานว่ามีลายธรรมชาติของหินอาเกตหรือไม่  ราคาหลักสิบถึงหลักร้อยใช้เป็นเครื่องประดับแต่ไม่มีพลังแก่ผู้สวมใส่

     หินdZiที่พบเห็นและซื้อขายส่วนใหญ่เป็นหินใหม่เกรด 3 และเกรด 4 ที่ทำจากหินอาเกต (Agate) มีพTลังธรรมชาติกับพลังแม่เหล็กในตัวสูงเหมือนdZiเก่าทุกประการจึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
 ขึ้นด้านบน
 สัญลักษณ์

     ความหมายของสัญลักษณ์บนหินdZi หรือหินทิเบต
ลวดลายบนหินทิเบตแบ่งออกตามสัญลักษณ์ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
     1. ความสงบสุข  จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปวงกลม  หมายถึง  ป้องกันความหายนะ  เปลี่ยนโชคร้ายกลายเป็นดีและขจัดอุปสรรค
     2. ความก้าวหน้า  มีสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยม  หมายถึง  ธุรกิจรุ่งเรือง  ความร่ำรวยรวดเร็ว  มิโชคลาภและสมปรารถนา
     3. ความสมบูรณ์แบบ  มีสัญลักษณ์เป็นเส้นโค้ง  หมายถึง  ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น  มีมนุษญสัมพันธ์ที่ดี  สร้างความเป็นผู้นำ
     4. พลังอำนาจ  มีสัญลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยม  หมายถึง  ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย  ปราบภูตผีปีศาจ  ขับไล่พลังที่ชั่วร้าย

หินทิเบต หินทิเบต หินทิเบต
 ขึ้นด้านบน
 ความหมายของลาย
     หิน 1 ตา ( 1 Eye dZi ) หินแห่งสติปัญญา ช่วยชี้นำความสว่างไสวมาให้ ทำให้เฉลียวฉลาด และทำให้สมหวังดังสิ่งที่ปรารถนาในชีวิต ทำให้จิตใจผ่องใส ดีมากสำหรับเด็กหรือผู้ที่กำลังศึกษา เป็นการประกันความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น และยังเป็นหินแห่งความสงบสุขอีกด้วย
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : มะเมีย มะแม วอก
     หิน 2 ตา ( 2 Eyes dZi ) หินแห่งความรัก และความสามัคคี ช่วยให้มีความสุขในครอบครัว คู่รัก สามีภรรยารักใคร่กันมากขึ้น ช่วยให้คู่รักได้รับความสุขราบรื่น ช่วยประสานรอยร้าวในเรื่องความสัมพันธ์เกี่ยวกับคนรอบข้าง ได้รับการนับหน้าถือตาในสังคม และหน้าที่การงาน นอกจากนี้หิน 2 ตา ยังนำมาซึ่งความรอบรู้และความอดทนทำให้ใจเย็นขึ้น และได้รับความสำเร็จในสิ่งที่กำลังพยายามทำอยู่
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หิน 3 ตา ( 3 Eyes dZi ) หินแห่งความสุข มั่งมี และอายุวัฒนะ เปรียบเสมือนเทพ ฮก ลก ซิ่ว นำความสิริมงคลมาแก่ผู้สวมใส่และครอบครัว ทำให้เห็นโอกาสและไขว่คว้าได้ มีเทพเจ้าโชคลาภคอยดูแล นำมาซึ่งความร่ำรวย ช่วยให้ผู้สวมใส่เอาชนะใน 3 สิ่ง คือ ความอยาก ความเกลียด ความเขลา และยังขจัดอุปสรรคทั้งหลายได้อีกด้วย
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง
     หิน 4 ตา ( 4 Eyes dZi ) หินแห่งการปกป้องคุ้มครองภัยได้รับพรจากพระโพธิสัตว์ทั้ง 4 พระองค์อันได้แก่ พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (พระมหากรุณา) , พระมหาโพธิสัตว์มัญชุศรี (ปัญญาบารมี), พระมหาโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (ความเจริญงอกงาม) และ พระสมันตรภัทร (พระธรรมคำสั่งสอน) จะได้รับแต่สิ่งที่ดีงาม พ้นจากความชั่วร้าย
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง
     หิน 5 ตา ( 5 Eyes dZi ) หินแห่งโชคลาภ ร่ำรวย มั่งคั่ง เป็นตัวแทนเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง 5 องค์จากทั้ง 5 ทิศ ช่วยให้ผู้สวมใส่โชคดี มีเงินทอง ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และอายุยืน มีอนาคตที่ดี ประสบความสำเร็จ ชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งที่น่ายินดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการผลประโยชน์ด้านการเงิน และมีอีกแบบ คือ หิน 5 ตาสายฟ้า ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการได้มาอย่างรวดเร็ว
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : มะเมีย มะแม วอก
     หิน 6 ตา ( 6 Eyes dZi ) หินแห่งการปัดเป่ากรรมร้าย และสิ่งชั่วร้าย ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถเอาชนะอำนาจด้านลบทั้งหลาย และช่วยให้รอดพ้นจากเคราะห์ร้าย ทั้ง 6 เช่น การสูญเสียทรัพย์สิน ความเจ็บปวด อุบัติเหตุ การฉ้อโกง การถูกจี้ปล้น และเสียคนที่เป็นที่รัก ช่วยขจัดอุปสรรคปัญหา ที่ทำให้โครงการต่าง ๆ ล้าช้า
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : มะเมีย มะแม วอก
     หิน 7 ตา ( 7 Eyes dZi ) หินแห่งความสำเร็จ เป็นตัวแทนขององค์พระพิฆเนศ โดยได้รับพรทั้ง 7 ประการอันได้แก่ ความสมบูรณ์ มีชื่อเสียง มีหน้าที่การงานดี มีความมั่งคั่ง ร่างกายแข็งแรง อายุวัฒนะ และมีความสัมพันธ์หรือการคบค้าสมาคมที่ดี ลูกค้าที่ซื้อไปใส่บางท่านก็ซื้อให้บุตรหลานใส่ให้ประสบความสำเร็จในด้านการเล่าเรียน ซึ่งก็ประสบผลไปได้ด้วยดี
เหมาะกับปีเกิด : มะเมีย มะแม วอก
     หิน 8 ตา ( 8 Eyes dZi ) หินแห่งการปกป้องจากพระโพธิ์สัตว์ทั้ง 8 ทิศ เชื่อว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองจากทั่วสารทิศ ให้รอดพ้นจากอันตรายต่างๆ มีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน หิน8 ตา ยังเป็นหินแห่งการนำความโชคดีมาให้ กับตัวเลข 8 เป็นตัวแทนแห่งอำนาจวิเศษ 8 อย่าง บนสรวงสวรรค์ ช่วยเลือกทางเดินหรือตัดสินใจได้ถูกต้อง นำความสงบสุข ปราศจากภัยอันตราย เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หิน 9 ตา ( 9 Eyes dZi ) หินแห่งโอกาส เชื่อกันว่า ทำให้ผู้สวมใส่ได้รับบุญ 9 ประการ ซึ่งจะช่วยชำระกรรมชั่ว มลายอุปสรรคต่างๆ และสิ่งที่กีดขวางความสำเร็จ ช่วยเพิ่มอำนาจ บารมี ชื่อเสียง ลาภยศ ช่วยนำความมั่งคั่ง และลาภลอยมาให้ ทำให้ได้รับผลประโยชน์ที่เพิ่มพูน ขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาด นอกจากนี้หิน 9 ตา ยังช่วยปกป้องคุ้มครอง ผู้สวมใส่ให้รอดพ้นจากพลังด้านลบ หรือสิ่งชั่วร้ายต่างๆอีกด้วย
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง และทุกปีเกิด
     หิน 10 ตา ( 10 Eyes dZi ) หินแห่งการนับหน้าถือตา ช่วยให้ได้รับการนับหน้าถือตาในแวดวงสังคม ทำการสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขจัดอุปสรรคต่างๆออกไป หิน 10 ตา มีบทบาทสำคัญในการชำระกรรมในอดีต และปัจจุบัน เพื่อส่งผลให้มีความโชคดีในอนาคต ช่วยเสริมสร้างสติปัญญา และเสริมความสามารถในการเป็นผู้นำ ช่วยในการทำงาน เป็นหมู่คณะ
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หิน 11 ตา ( 11 Eyes dZi ) หินแห่งมนตรา เชื่อว่าเป็นหินที่รวมพระเจ้าแห่งความมั่งคั่งทั้ง 5 ภาค และ 6 มนตราทิเบตว่า “โอม มา นี ปัด เม ฮุง” ของพระอวโลติเกศวร หรือพระแม่กวนอิม พลังลึกลับของฮินดู ช่วยนำมาซึ่งความโชคดี มั่งคั่ง ร่ำรวย สติปัญญา และการกระทำที่ดี ปกป้องคุ้มครองจากพลังด้านลบ
โอม สีขาว คือองค์ปัญญาของท่าน ฌานบารมีของท่านได้ขจัดความเฉื่อยชา หลงในความสุขสบายของอัตตา
มา สีเขียว คือเมตตาจิตของท่าน ขันติบารมีของท่านได้ขจัดความริษยา การแสวงหาชัยชนะด้วยเล่ห์กลต่างๆ
นี สีเหลือง คือกาย วาจา ใจ การกระทำ และบุญบารมีของท่าน ศีลบารมีของท่านได้ขจัดความยึดติดในตน ความปารถนาไม่สิ้นสุด
ปัด สีฟ้า คือเสมอภาพ ปัญญาบารมีของท่านได้ขจัดความโง่เขลา ชาด้าน เก็บกด
เม สีแดง คือความอิสระ ความมั่งคั่ง ทานบารมีของท่านได้ขจัดความโลภ ความหิวกระหาย
ฮุม สีดำ คือมหาเมตตากรุณา วิริยะบารมีของท่านได้ขจัดความโกรธแค้น การต้องการทำลาย
ผู้สวมใส่หินดี.ซี.ไอ. 11 ตาจึงเหมือนได้รับความสุขทุกประการนั่นเอง
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : มะเมีย มะแม วอก
     หิน 12 ตา ( 12 Eyes dZi ) หินแห่งความมั่นใจ ช่วยให้เอาชนะความหวาดกลัวต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นจริง หรือจากจินตนาการของตัวเอง เพิ่มพลังด้านบวกให้กับผู้สวมใส่ เป็นสัญลักษณ์ของการบรรลุถึงสิ่งที่ปรารถนา และนำพาซึ่งชื่อเสียงและเกียรติยศมาให้ จะได้รับการนับหน้าถือตาในแวดวงสังคม ทั้งยังช่วยให้ได้รับโอกาสใหม่อยู่เสมอ
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หิน 13 ตา ( 13 Eyes dZi ) หินแห่ง 8 มงคลสู้ห้าโชคลาภ สมดังปรารถนาทุกประการ และยังยังช่วยให้สัมฤทธิ์ผลสำเร็จในเร็ววัน
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง
     หิน 15 ตา ( 15 Eyes dZi ) หินแห่งการทำธุรกิจ และการงาน ช่วยดึงพรสวรรค์จากผู้สวมใส่ขึ้นมาให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ทำให้ประสบความสำเร็จ ราบรื่นในทุกด้าน ทั้งยังช่วยนำโชคด้านธุรกิจมาให้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังทำโครงการใหญ่ ที่มีคู่แข่ง และความเสี่ยง
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หิน 18 ตา ( 18 Eyes dZi ) หินแห่งความสำเร็จ ช่วยให้ประสบผลสำเร็จสูงสุดตามความมุ่งหวังในชีวิต ได้รับทั้งชื่อเสียง และโชคลาภ ความมั่งมี, มีความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เหมาะสำหรับผู้ทุกปีเกิด
     หิน 21 ตา ( 21 Eyes dZi ) หินแห่งพลัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้นำ เชื่อว่าเป็นหินแห่งพลัง เนื่องจากเป็นพลังความสำเร็จระดับสูงสุดทั้งโลกมนุษย์ และเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์ เป็นหินที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังสูงสุด อาทิ ผู้นำในองค์กรต่างๆ นายพลแห่งกองทัพ ผู้อำนวยการโรงเรียน หรือ ผู้นำสูงสุดทางธุรกิจ หินชนิดนี้นำมาซึ่งความโชคดีอย่างราบรื่น และสมหวังตามต้องการทุกประการ
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินเกี่ยวเงินเกี่ยวทอง ( Money and Luck Hook dZi ) เป็นหินโชคลาภและเงินทองอย่างหนึ่ง นอกจากผู้สวมใส่จะเกิดโชคลาภแล้วยังสามารถเก็บรักษาไม่ให้รั่วไหลไปไหน
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินใบโพธิ์ ( Bodhi dZi ) มีความหมายเกี่ยวกับการขจัดภัยพิบัติ หายนะและอุปสรรคต่าง ๆ การยึดเอาหลักเมตาธรรมในการดำเนินชีวิต และปราศจากโรคภัยต่าง ๆ
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินดอกบัว ( Lotus dZi ) หินแห่งความสงบสุข ช่วยให้ผู้สวมใส่ใจเย็น มีจิตใจที่บริสุทธิ์โอบอ้อมอารี และชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีในร่างกายและจิตใจ ทำให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินแจกันแห่งโภคทรัพย์ ( Nectar dZi ) ซึ่งเป็น 1 ใน 8 สิ่งสำคัญในทิเบต โดยแจกันดังกล่าวมีทรัพย์สมบัติที่ใช้ไม่หมด แม้มีการใช้ไปก็จะกลับมาอยู่เสมอ จึงนำมาซึ่งสิริมงคลต่อผู้สวมใส่ ป้องกันทรัพย์สมบัติสูญหาย รวบรวมสมบัติให้มั่นคง และช่วยให้การค้าขานเจริญรุ่งเรือง
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หินวัชระ ( Watchara dZi ) มีความหมายถึงการปกป้องคุ้มภัย ในอดีตนักรบพระโพธิสัตว์ใช้วัชระในการป้องกันแจกันแห่งโภคทรัพย์ จึงสามารถแปลได้ว่าการป้องกันหรือการขจัดสิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ หินตาวัชระจะใช้สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดหรือในภาษาทิเบตเรียกว่า ตาเพชร อันประกอบด้วยตาเพชร 6 ตา ซึ่งก็คือ หิน 6 ตาอีกประเภทหนึ่ง
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินกระดองเต่า ( Tortoise Shell / Longevity dZi ) หมายถึงการมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ พ้นจากอันตรายทั้งปวง อายุมั่นขวัญยืน มีการเขียนลายกระดองเต่าผสมกับลายตา เช่น หิน 6 ตากระดองเต่า หรือ หิน 9 ตากระดองเต่า
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง
     หินฟ้าดิน ( Sky and Earth dZi ) ใช้สัญลักษณ์วงกลมแทนฟ้า และใช้สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมแทนดิน มีความหมายว่าการรวมกันของฟ้าและดิน ทำให้ปัดเป่าเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ออกไป และเปรียบเหมือนการเริ่มต้นจากที่ต่ำสู่ที่สูง ความสำเร็จในธุรกิจและหน้าที่การงาน ช่วยให้หลุดพ้นจากฐานะต่ำต้อย นำไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวย
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินเขี้ยวเสือ ( Tiger Tooth dZi ) หมายถึงความเข้มแข็ง สามารถหลุดพ้นจากเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ได้ แก้เคล็ด แก้โดนของ ปัดเป่าอุปสรรค มีสุขภาพที่แข็งแรง ทุกสิ่งสมดังใจหมาย นำพาชื่อเสียงเข้ามาในชีวิต มี 2 แบบคือ เขี้ยวเสือเดี่ยว กับเขี้ยวเสือคู่
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : มะเมีย มะแม วอก
     หินผู้สูงศักดิ์ ( Monsignor dZi ) ขจัดพลังของผู้ที่ไม่ประสงค์ดีต่อผู้สวมใส่ มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ ทำให้สามารถช่วยเหลือในหน้าที่การงาน และชีวิตประจำวันได้ ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขและรักใคร่ปรองดองกัน
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง
     หินนกวิเศษ ( Garuda Form ) นกวิเศษ (Garuda) ตัวแทนผู้ปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ปัดเป่าเคราะห์ร้าย และสิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หินสวัสดิกะ ( Swastika Sign dZi ) เครื่องหมายแห่งคุณธรรม เป็นสัญลักษณ์ 1 ใน 55 ของพระพุทธเจ้าซึ่งมอบแต่สิ่งที่ดีมาให้กับมวลมนุษย์
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินหมวกลามะ ( Dharma Hat ) ช่วยให้สมความปรารถนา สบายอารมณ์เป็นที่ต้อนรับของทุกคนที่พบเห็น นำมาซึ่งพลังอันยิ่งใหญ่ ช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บ เพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย และอายุยืนยาว การผสมผสานความรู้, อำนาจ และความมีชื่อเสียง
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ระกา จอ กุน
     หินลายคลื่น ( Wave dZi ) เหมือนริ้วรอยบนน้ำหมายถึงโชคลาภที่ไหลมาเทมา ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ประสบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขทุกแห่งหน
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินหรู ยี่ ( Ru Yi dZi ) เป็นหินนำโชคพิเศษสำหรับผู้ที่
1. แสวงหาความร่ำรวยจากกำไรทางการค้า
2. แสวงหาการเลื่อนตำแหน่ง
3. ปรับปรุงนิสัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : ชวด ฉลู ขาล
     หินแถบสามสี ( 3-Color dZi ) มีแถบสี 4 แถบแบ่งหินออกเป็น 3 ส่วนนำมาซึ่ง
1. เป็นการเร่งความโชคดีในอนาคต ให้เกิดเร็วขึ้นตลอดเวลา
2. ช่วยให้การทำงานราบรื่นและปราศจากอุปสรรค
3. ขจัดปัญหา, อุปสรรคและความโชคร้าย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพลิกโอกาสและนำมาซึ่งความสำเร็จ
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินลายทางหรือลายเส้น ( Striped dZi ) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงโชคดี และหมุนเวียนความมั่งคั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่พึงพอใจกับสภาพปัจจุบันของตนเอง และต้องการการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินดาว ( Star dZi ) ช่วยเสริมรากฐานะให้มั่นคงเป็นปึกแผ่น นำมาซึ่งความมั่งคั่งร่ำรวย
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินเจ้าแม่กวนอิม ( Kwan Yin dZi) เป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตากรุณา ช่วยให้เอาชนะความเจ็บป่วย, ปัญหาครอบครัว, ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์, ปัญหาการงาน, ปัญหาภายในจิตใจ, ปัญหาเกี่ยวกับเด็ก. ขจัดความกดดันต่าง ๆ
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินค้างคาว 5 ตัว ( 5 Bats dZi) หมายถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพ, ความมั่งคั่งร่ำรวย, อายุยืนนานและสัมพันธภาพที่ดี
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินตามังกร ( Dragon Eyes dZi ) หมายถึงมีโชคลาภบารมีมากล้น ช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายและเสริมสร้างบารมีให้แก่ผู้สวมใส่ เป็นผู้นำทุกระดับของประเทศ
เหมาะสำหรับผู้ที่ในปีเกิด : เถาะ มะโรง มะเส็ง
     หินหมอยา ( Medicine dZi ) มีคุณสมบัติในการรักษาอาการเจ็บป่วยและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผู้สวมใส่มีอายุยืนยาว
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินหยิน-หยาง ( Yin Yang dZi ) หมายถึงสิ่งที่คู่กันในธรรมชาติ คือพลังซึ่งคู่กันหากเท่ากันจึงจะสร้างความสมดุล และนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ช่วยให่ผู้ที่สวมใส่มีความสุขทั้งกายและใจ ปรอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินไฉ่ซิ่งเอี๊ย ( Chi Sing Ear dZi ) หมายถึงมีเทพเจ้าแห่งโชคลาภคอยคุ้มครอง นำมาซึ่งโชคลาภและความร่ำรวย
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินภูเขา หมายถึงสร้างความมั่นใจขจัดอุปสรรคในชีวิต
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินสุริยัน-จันทรา หมายถึงการนำมาซึ่งความสำเร็จมั่นคงนา ๆ ประการ
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
     หินดินน้ำลมไฟ หมายถึงแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
เหมาะสำหรับทุกปีเกิด
 ขึ้นด้านบน
 ข้อปฏิบัติในการสวมใส่
     ในการส่วนใสหินทิเบตนั้นต้องแสดงความเป็นเจ้าของก่อน คือ หินทุกชิ้นนั้นมีอดีตกับเจ้าของเดิมมาก่อน ต้องทำให้หินนั้นลืมอดีตก่อน  โดยการนำหินมาใสในอุ้มมือ  จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหลผ่านหินเบา ๆ สัก 3 นาที  เช็ดทำความสะอาด  แล้วกำใส่มืออธิฐาน  “บัดนี้ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของท่านแล้ว  ขอให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อปกป้องคุ้มครอง  และอวยชัยให้พรสมบูรณ์  ด้วยโภคทรัพย์  และแคล้วคลาดจากโรคภัย  อันตรายใด ๆ ทั้งปวงเทอญ”  แล้วนำหินนั้นมาถูสัมผัสกับเนื้อตัวของเราแล้วนำไปแช่ไว้ในขันใส่น้ำ  แช่น้ำสักครึ่งวันทำให้ลืมอดีตให้สนิท  พร้อมกับรับเราเป็นเจ้าของใหม่
     สำคัญจะต้องอธิฐานจิตให้เขามาอยู่กับเราทั้งรูปธรรมและนามธรรม  เมื่อเราสวมใส่หินต่อจากนั้นหินก็จะซึมซับพลังจากตัวเราทั้งจิตวิญญาณของเราและของหิน ในการสวมใส่หินครั้งแรกนั้นอาจมีอาการมึนหัว, อ่อนเพลีย, ปวดเมื่อย  ถือว่าเป็นเรื่องปกติ  เพราะในการใส่หินแรก ๆ นั้นหินจะทำการปรับสภาพร่างกายของเราให้เข้าสู่ภาวะสมดุลจึกมีอาการข้างเคียงดังกล่าว แต่จะเกิดในบางคนและหินบางเม็ดเท่านั้นเช่น  ในคนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงกับหินที่มีพลังมากเช่นหินสีแดง


ข้อปฏิบัติที่สำคัญ
     1.ในขณะที่เสพเมถุนธรรม ควรที่จะถอดออกแล้ววางไว้ที่สูงกว่า
     2.เวลาที่สวมใสจะต้องเป็นคนที่มีสัจจะรักษาคำพูด
 ขึ้นด้านบน
 เพิ่มพลังและชำระล้างหิน
     การเพิ่มพลังด้านบวกและล้างพลังด้านลบให้กับของหินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ควรปฏิบัติเป็นประจำ  ไม่ต่างไปจากการที่เราบูชาพระเครื่องแต่ไม่เคยคิดที่จะสวดมนต์หรือท่องมนต์อะไรเลย
พลังจากดวงอาทิตย์
     หินชนิดต่าง ๆ ที่ได้มาใหม่  ควรนำไปวางไว้กลางแจ้งเพื่อรับพลังจากดวงอาทิตย์  โดยการนำหินมาวางไว้บนวัตถุที่ทนความร้อนได้เนื่องจากหินบางชนิดมีคุณสมบัติในการรวมแสงจึงอาจทำให้วัตถุที่รองรับมีอุณหภูมิสูงจนอาจติดไฟได้  วิธีล้างหินแบบนี้เหมาะกับหินที่ได้มาใหม่  ยังไม่รู้ที่มาที่ไป  จึงควรที่จะล้างพลังด้านลบไว้ก่อน  แต่ปกติแล้วเราสวมใส่หินทุกวันก็ได้ซึมซับพลังจากดวงอาทิตย์อยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องอาบแสงอาทิตย์  แต่ถ้าถูกเก็บไว้ในที่มิดชิดก็ควรนำมาอาบแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มพลังให้กับหินด้วย
การอาบพลังจากแสงจันทร์
     แสงจันทร์เป็นพลังแห่งความนุ่มนวล  เป็นพลังแห่งเพศหญิง  เหมาะสำหรับล้างหิน  โดยการนำหินไปวางไว้กลางแจ้งให้พ้นจากหลังคาบ้านในตอนกลางคืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนพระจันทร์เต็มดวงขึ้น 15  ค่ำ   เพื่อให้หินซึมซับพลังจากดวงจันทร์และสะสมพลังแห่งความอ่อนโยนนุ่มนวลไว้  อีกทั้งได้รับพลังจากน้ำค้าง  โดยธรรมชาติของดินก่อนที่จะเป็นหินนั้นต้องถูกทับถมมาหลายพันล้านปี  ถูกแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ส่องมานามแล้ว  การอาบแสงจันทร์จึงเป็นการช่วยเพิ่มพลังให้กับหิน
ทาน้ำมันจันทน์ 
     เป็นการเพิ่มพลังให้กับหินโดยลูบไล้เนื้อหินด้วยน้ำมันจันทน์แท้  เพื่อเป็นการรักษาสภาพผิวเนื้อหิน  และซึมซับน้ำมันจันทน์ไว้เพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติของหิน  วิธีนี้จะช่วยขับพลังที่เราไม่ต้องการออกไปจากหิน  และกลิ่นหอมนั้นมีคลื่นความถี่ของเสียงที่กังวานสูง  จะช่วยเพิ่มเสียงกังวานลงไปในผลึกหินได้
การสวดมนต์ 
     นำหินมาไว้ในมือแล้วพนมมือสวดสรรเสริญพุทธคุณ (อิติปิโส) แบบไทย เมื่อจบแล้วสวดเพิ่มอีกหนึ่งบทคือ โอม ลามะโบด   ฮุม  หรือ  โอม มะ นี เป เม ฮุม    เสียงการสวดมนต์นั้นช่วยขจัดพลังด้านลบได้
การอาบควันธูป
     จุดธูปเพื่อรมตัวหิน  หรือไปสถานที่ที่มีคนกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และจุดธูปไหว้พระหรือห้องพระ  หิ้งพระ  ที่บ้าน  ให้นำหินไปวนเหนือกระถางธูป  วนซ้าย 3 รอบ   แล้ววนขวา 3 รอบ
ชำระล้างโดยให้น้ำธรรมดาไหลผ่าน
     ล้างกับน้ำฝนเวลาที่ฝนตกหนักได้พักหนึ่งแล้วช่วงเวลาดังกล่าวธาตุทั้ง 4 จะปล่อยพลังธรรมชาติที่มีอนุภาพมากออกมา หรือถ้าไม่สะดวกให้นำหินไปวางรองไว้ใต้ก๊อกน้ำ โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านหินประมาณ 10-20 นาที ก็ได้
ล้างด้วยน้ำเกลือหรือน้ำทะเล
     นำหินไปใส่ไว้ในแก้วใส  แล้วนำถ้วย กาละมัง  ขัน  หรืออะไรก็ได้ที่ใหญ่กว่าแก้ว  ใส่น้ำลงไปแล้วละลายเกลือลงไปให้เป็นน้ำเกลือ  แล้วนำแก้วที่ใส่หินไว้มาวางลงตรงกลาง  โดยระดับน้ำเกลือต้องสูงกว่าตัวหิน  หรือนำไปล้างน้ำทะเลก่อนแล้วจึงนำไปแช่ในน้ำจืดภายหลัง  น้ำจะช่วยดูดพลังด้านลบที่สะสมในหินออกไป  ส่วนเกลือมีคุณสมบัติในการจำแนกพลังงานในหินให้ทำงานกับร่างกายและจิตใจอย่างมีประสิทธิภาพ  

 ขึ้นด้านบน
 วิธีการเลือกหิน

     1. สีของเนื้อหิน โดยทั่วไปสีของซีบีดมี 5 สีคือ ขาวครีม , ดำ , น้ำตาล , แดง , เขียวอ่อน โดยสีขาวครีมเป็นสีที่มีความต้องการมาก ในตลาด ซึ่งอาจดูจากสีของรู ที่เจาะไว้ว่า มีสีขาวครีมหรือไม่ ถ้ามีก็ชี้ได้ว่าเป็นซีบีดแท้

     2. สีของลายบนเนื้อหิน สีของซีบีดทั้งลายและเนื้อหินส่วนมากจะเป็น ดำ-ขาว , น้ำตาลเข้ม-ขาวครีม , น้ำตาล-ขาวครีม , น้ำตาลอ่อน-ขาว โดยที่ความคมชัดของเนื้อหิน และลายบนเนื้อหินควรจะตัดกันอย่างชัดเจน ซึ่งสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือสีน้ำตาลเข้ม-ขาวครีม

     3. ความมันเงาของหิน เนื่องจากความเก่าของหิน และอายุการใช้งาน ในความเงา บนเนื้อหิน ย่อมมีคราบบ้าง ความเงาของหินจะมากหรือน้อย ดูได้จาก แสงสะท้อน จากแสงไฟ และลักษณะความเงา ก็มีหลายแบบ เช่น แบบแก้ว , แบบมัน , แบบมันด้าน ในบางที ถ้าเป็นหินที่ใช้งานมามาก มักจะมีคราบเปื้อนอยู่บนเนื้อหิน ซึ่งทำให้แสงสะท้อน จากไฟ ไม่มากนัก ตรงนี้สังเกตได้ด้วยตาเปล่า

     4. ความโปร่งแสง มักจะเป็นวิธีที่ใช้ดูซีบีด แต่ไม่สามารถใช้วิธีนี้ เพียงอย่างเดียว ในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งตกใจหากซีบีดของคุณไม่โปร่งแสง ซีบีดมีหลายเนื้อ ต้องเข้าใจก่อนว่า เทือกเขาหิมาลัยมีหลายยอดทอดเป็นแนวยาว แต่ละยอดก้อมีชื่อเฉพาะ เนื้อหินก้อแตกต่างกันตามชั้นหินด้วย เพราะฉะนั้น มีทั้งที่ทึบและโปร่งแสง โดยทั่วไป หากเป็นหินอาเกต จะเริ่มจากสีใส, สีขาว, สีน้ำตาล, สีดำ และหินอาเกตสีแดง จะอยู่ในชั้นลึกลงไป หายากกว่า แต่วิธีนี้ไม่สามารถ เป็นเครื่องมือสำคัญ ในการดูหินซีบีด อย่างแท้จริงได้

     5. ความสมบูรณ์ของหิน ซีบีด. ส่วนมากผ่านการใช้งานมาแล้ว ความสมบูรณ์ของหิน จึงดูโดยตรงได้จากเนื้อหินว่ามีรอยอะไรบ้าง และตรงปลายหิน อาจจะมีรอยกระแทก อยู่บ้าง ซึ่งร่องรอยเพียงเล็กน้อยไม่ทำให้ซีบีด ลดค่าได้ บางทีเนื้อหินบางส่วน อาจถูกขูด เพื่อนำไปใช้ทำยา ก็สามารถยอมรับได้เช่นกัน แต่ถ้าหินโดนหักเป็น 2 ท่อนแล้ว ความขลัง ก็จะลดลง และไม่แนะนำให้สวมใส่

     6. ร่องรอยจากสภาพอากาศ Weathering marks เป็นตำหนิที่เกิดจากความเก่า เป็นเส้นเล็กๆ มีความลึกแตกต่างกัน อยู่บนพื้นผิวของลูกปัด แต่ไม่ได้หมายความว่า ลูกปัดที่ไม่มีรอยนี้ ไม่เก่านะคะ เพราะขึ้นกับการใช้งาน ร่องรอยจากสภาพอากาศบนเนื้อหินเป็นร่องรอยของอายุหิน ถ้ามองจากแว่นขยายก็จะพบรอยกระจายทั่งไปโดยมีความลึกไม่ค่อยสม่ำเสมอกันซักเท่าไร ร่องรอยตรงนี้จะเห็นได้ชัดบนสีดำ หรือสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีลายของหินซีบีด
     7. เป็นจุดสีแดง หรือดำ (เมอคิวริคซัลไฟด์) Cinnabar dots อยู่ภายในเนื้อลูกปัดจนถึงพื้นผิว เป็นไปได้ว่าจุดนี้เป็นผลมาจาก ปฏิกิริยาสนามแม่เหล็กระหว่างลูกปัด และผู้สวมเป็น ระยะเวลานาน ตำหนิแบบนี้หายากและมีราคาสูง แต่สามารถเกิดได้ เริ่มตั้งแต่หินใหม่ ไปจนถึงหินเก่า และซีบีด บางประเภทก็ไม่มีจุดแดง บางประเภทมีจุดแดง ก็ไม่ใช่จะเป็น หินประเภทดีเช่นกัน เพียงแต่จุดแดง เป็นสิ่งที่ค่อนข้าง ใช้บ่อยในการจำแนก ซีบีด เก่าหรือใหม่ บางทีก็เป็นจุดดำบนซีบีด ในบางเม็ด เมื่อใส่ไปเรื่อยๆ สีของจุดแดงอาจจะอ่อนลง หรือเข้มขึ้นได้ และจากที่ได้ศึกษา มาจากผู้รู้เรื่องซีบีด จึงได้ข้อสรุปว่าจุดแดงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดจากเหงื่อเปื้อน แต่เกิดจากปฏิกิริยาของแม่เหล็กในเนื้อหินกับร่างกายผู้สวมใส่
     8 . รอยวงที่เกิดตามธรรมชาต อยู่บนตัวลูกปัด Circular dragon marks เป็นตำหนิที่เป็นสิริมงคล เกิดจากสวดภาวนา หรือทำสมาธิของผู้ทำพิธี ตำหนินี้ เป็นรอยวงๆ กระจายบนผิวลูกปัด ยิ่งมีมาก ยิ่งมีราคาสูง
     9 . ลักษณะภายใน ( กรณีที่แตก) ลูกปัดจะยังคงมีสีดำซึมในเนื้อประมาณ 1 ใน 3 ของรัศมี ขณะที่ของปลอมจะมีอยู่แค่บนผิวเท่านั้น
     10. ลายที่เหมือนเส้นเลือดในเนื้อหินซีบีด เป็นลายธรรมชาติ เรียกว่า dragon line (ทำให้หินมีพลังมากขึ้นด้วย) ใส่ ๆ ไปสามารถเกิดเพิ่มได้อีกด้วย
(จากหนังสือ The Gzi Beads of Tibet by Lin, Tang-Kwang, 2001)
 ขึ้นด้านบน
 วิธีการทำลวดลาย
     วิธีที่ 1 การเอซชิ่ง ( Etching) เป็นวิธีการกัดลายด้วยด่าง เป็นการนำเอาผงด่าง มาผสมกับ ยางไม้ใช้ทาให้เป็นลาย ตามที่ต้องการ เสร็จแล้วนำไปอบในเตา เอาออกมาก็จะได้ ลายเส้นสีขาว อยู่บนเนื้อหิน โดยเส้นลายจะอยู่แค่บนผิวของหิน มักจะใช้กับหินที่มีสีพื้นสม่ำเสมอเท่ากันทั้งเม็ด มักจะใช้กับ Carnelian และหินที่มีสีดำล้วนอยู่แล้วตามธรรมชาติ การทำหินทิเบต

     วิธีที่ 2 การทำให้ย้อมไม่ติดสี ( Anti-Dying) วิธีการนี้ เค้าจะนำเอาอาเกตมาเผา ให้เป็นสีขาวทั้งเม็ดก่อน แล้วจึงจะเอาไปย้อมสีโดยเอามาต้มในน้ำเชื่อม ระยะเวลาเป็นเดือน ให้น้ำตาลมันแทรกซึมเข้าไปในเนื้อหิน แล้วจึงนำมาอบเพื่อให้น้ำตาลมไหม้เกิดเป็นหินสีน้ำตาล ก่อนอบก็ใช้ด่างจาก ยางไม้มาทาเคลือบไว้ก่อน ให้เป็นลวดลายตามที่ต้องการ และทำให้ ไม่ติดสีย้อม ในส่วนนี้ ลายที่เกิดขึ้นมาในกรณีนี้ จะเป็นส่วนของหินสีขาว ที่ถูกเผา ตั้งแต่เริ่มต้น ลายที่เกิดขึ้น จึงมีลักษณะฝัง อยู่ในเนื้อหิน มักจะใช้กับ หินอาเกต ที่ต้องการ ล้างลายธรรมชาติก่อน ที่จะทำลวดลายใหม่เข้าไป

การทำหินทิเบต
     วิธีแรกเป็นวิธีแบบเปอร์เซีย
     ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีแบบทิเบต หินที่ได้มักจะโปร่งแสง และรูของหินอาจจะมีสีขาว เนื่องจากมีการกันไม่ให้สีเข้าไป ในรูหิน เมื่อเจาะหินก่อนย้อม หรือแม้แต่สีคราบกาแฟ หากย้อมก่อนเจาะรูหิน
 ขึ้นด้านบน
สินค้าแนะนำ
D0701
จี้ห้อยคอหยกแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิม
      ฿ 1599 Bth     
D2401
      ฿ 1599 Bth    
D2501
      ฿ 1599 Bth    

HOME    นานาสาระ     รายการสินค้า    วิธิการสั่งซื้อ - ชำะเงิน  •  Web Board  •  Free Download  •  About

COPYRIGHT © SMILEMANNODE. ALL RIGHTS RESERVED.
Free Web Hosting